
Serverless Architecture เป็นหนึ่งในแนวคิดการพัฒนาระบบที่ มาแรงที่สุดในยุคคลาวด์ โดยช่วยให้คุณสามารถพัฒนาและขยายระบบได้อย่างยืดหยุ่นโดย ไม่ต้องจัดการเซิร์ฟเวอร์เอง
หลายคนเข้าใจว่า “Serverless” แปลว่า “ไม่มีเซิร์ฟเวอร์” แต่จริงๆ แล้วหมายถึง “คุณไม่ต้องดูแลมันเอง” ต่างหาก!
⚙️ Serverless คืออะไร? ทำงานยังไง?
Serverless คือการที่คุณเขียน Function หรือโค้ดเล็กๆ แล้วให้ระบบของผู้ให้บริการเช่น AWS, Google, Microsoft ดูแลการเรียกใช้งาน รัน และสเกลให้ทั้งหมด
ตัวอย่างบริการ Serverless ที่นิยม
- AWS Lambda
- Google Cloud Functions
- Firebase Cloud Functions
- Azure Functions
ลักษณะสำคัญ:
🔁 ความแตกต่างระหว่าง Serverless กับ Traditional Backend
หัวข้อ | Traditional Backend | Serverless |
---|---|---|
การจัดการเซิร์ฟเวอร์ | ต้องตั้งค่า/ดูแลเอง | ผู้ให้บริการดูแลให้ทั้งหมด |
การเรียกใช้งาน | ทำงานตลอดเวลา (Always-on) | ทำงานเฉพาะตอนถูกเรียก (On-Demand) |
ความสามารถในการสเกล | ต้องวาง Load Balancer | สเกลอัตโนมัติแบบไร้ขีดจำกัด |
ค่าใช้จ่าย | จ่ายเป็นรายเดือน | จ่ายตามการใช้งานจริง (Pay-per-use) |
💼 ประโยชน์ต่อธุรกิจ
- ✅ ลดต้นทุนการดูแลระบบ
- ไม่ต้องมี DevOps คอยจัดการเซิร์ฟเวอร์
- 🚀 เร็วในการพัฒนาและ Deploy
- เขียนแค่ฟังก์ชันและ Deploy ได้ทันที
- 📈 ยืดหยุ่น รองรับการขยาย
- หากมี request เพิ่มขึ้น ระบบสามารถรองรับได้ทันที
- 🧩 เหมาะกับงานเฉพาะจุด (Microservices / Event-Driven)
- เช่นระบบแจ้งเตือน, การแปลงไฟล์, หรือระบบ Webhook
🖥️ ตัวอย่างโค้ด Lambda Function (Node.js)
jsCopyEditexports.handler = async (event) => {
const name = event.queryStringParameters.name || "Guest";
return {
statusCode: 200,
body: JSON.stringify({ message: `Hello, ${name}!` })
};
};
- ใช้กับ API Gateway → รับ HTTP Request → ส่ง Response
- เหมาะสำหรับการสร้าง Backend API ขนาดเล็ก
📌 สรุป
Serverless คือโซลูชันที่ทำให้คุณ โฟกัสที่โค้ด ไม่ใช่โครงสร้างพื้นฐาน
เหมาะกับทั้ง Startup ที่ต้องการ go-to-market เร็ว และองค์กรใหญ่ที่อยากลดต้นทุนโครงสร้าง
⚡ หากคุณต้องการระบบที่ “สเกลอัตโนมัติ + ไม่ต้องดูแลเครื่องเอง” — Serverless คือคำตอบ