AI กับความปลอดภัยทางไซเบอร์

เมื่อโจรใช้ AI, เราก็ต้องใช้ AI ป้องกัน

🧠 โลกไซเบอร์เปลี่ยนไป… เพราะ “AI อยู่ทั้งสองฝั่ง”

ภัยไซเบอร์ในยุคนี้ ไม่ได้เป็นแค่คนปลอมตัวเป็นแฮกเกอร์ แต่คือระบบอัตโนมัติที่ฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ
แฮกเกอร์เริ่มใช้ AI เพื่อเจาะระบบอย่างเงียบและแม่นยำ เช่น:

  • สร้างฟิชชิ่งอีเมลที่เหมือนมนุษย์เขียน
  • ตรวจสอบจุดอ่อนในโค้ดโดยใช้ AI Code Scanner
  • สแกนรหัสผ่านหลายพันชุดภายในไม่กี่วินาที

ดังนั้นฝั่งองค์กรก็ต้องมี AI เป็น “เกราะอัจฉริยะ” ป้องกันแบบ Real-time

🧠 AI ช่วยด้าน Cybersecurity ได้ยังไง?

✅ 1. Anomaly Detection – ตรวจจับสิ่งผิดปกติ

เมื่อระบบมีพฤติกรรม “ไม่เหมือนเคย” เช่น

  • IP แปลกเข้าระบบตอนตี 3
  • พนักงานดาวน์โหลดไฟล์จำนวนมาก
  • ทราฟฟิกพุ่งสูงผิดปกติจากบางประเทศ

AI จะเรียนรู้ “พฤติกรรมปกติ” และแจ้งเตือนเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

✅ 2. Threat Intelligence – วิเคราะห์ภัยคุกคามจากทั่วโลก

AI วิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข่าวไซเบอร์, โพสต์ในฟอรั่มแฮกเกอร์, GitHub, dark web
เพื่อคาดการณ์ภัยล่วงหน้า เช่น Malware สายพันธุ์ใหม่ หรือช่องโหว่ใน Plugin ยอดนิยม

✅ 3. Email Security – ป้องกัน Phishing ด้วย NLP

AI อ่านอีเมลที่เข้า Inbox ทุกฉบับ แล้ววิเคราะห์ว่า…

  • ใช้คำหลอกลวงหรือไม่?
  • มีลิงก์ไปยังเว็บไซต์แปลก ๆ หรือเปล่า?
  • มีการแนบไฟล์ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงไหม?

ระบบอย่าง Microsoft Defender for Office 365 ใช้ AI วิเคราะห์อีเมลมากกว่า 8 พันล้านฉบับ/วัน

✅ 4. User Behavior Analytics (UBA)

AI ตรวจจับ “พฤติกรรมของผู้ใช้ภายในองค์กร”
เช่น พนักงานที่กำลังจะลาออก แล้วดาวน์โหลดข้อมูลจำนวนมากผิดปกติ

✅ 5. Automated Response – ตอบสนองภัยคุกคามแบบอัตโนมัติ

เมื่อเจอภัยจริง AI สามารถ…

  • บล็อก IP ทันที
  • ปิด Session ที่น่าสงสัย
  • แจ้งผู้ดูแล + กักกัน (Quarantine) เครื่องที่อาจติดไวรัส

🏢 กรณีศึกษา: บริษัทใหญ่ที่ใช้ AI ด้านความปลอดภัย

✅ IBM Security

  • ใช้ Watson for Cyber Security
  • วิเคราะห์ภัยจาก Threat Report ทั่วโลกกว่า 10 ล้านแหล่งข้อมูล/วัน

✅ Darktrace

  • ระบบ AI Cyber Defense ที่เรียนรู้จากพฤติกรรมจริงของแต่ละองค์กร
  • แจ้งเตือนและปิดการโจมตีแบบ Zero-day ได้โดยอัตโนมัติ

✅ Microsoft Security Copilot

  • ใช้ GPT-4 วิเคราะห์การโจมตีแบบเจาะลึก พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขให้ Security Analyst

✅ สรุป

ในยุคที่ภัยคุกคามไม่หยุดพัก องค์กรก็ต้องมี AI ที่ทำงาน 24/7 เช่นกัน
เพราะการ “ป้องกันล่วงหน้า” ดีกว่าการ “ตามเก็บความเสียหาย” ทีหลังเสมอ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top