เลือกบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างไรไม่ให้ผิดหวัง

ทำไมการเลือกพาร์ทเนอร์พัฒนาซอฟต์แวร์จึงสำคัญ?
เพราะซอฟต์แวร์ไม่ใช่แค่ “เขียนโค้ดให้เสร็จ” แต่คือการ เข้าใจปัญหาเชิงธุรกิจ + แก้ด้วยเทคโนโลยี
หากเลือกผิด:
- เสียเงิน เสียเวลา
- ระบบใช้ไม่ได้จริง
- ต้องเปลี่ยนทีมใหม่ทั้งหมดในภายหลัง
แนวทางเลือกบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ไม่พลาด
✅ 1. เข้าใจธุรกิจคุณ ไม่ใช่แค่โค้ด
- บริษัทที่ดีควรเริ่มจากการฟัง และ วิเคราะห์ปัญหาทางธุรกิจ
- ถามคำถามเชิงกลยุทธ์ เช่น “กลุ่มเป้าหมายของระบบคือใคร?”, “ระบบจะช่วยลดต้นทุนหรือเพิ่มรายได้อย่างไร?”
✅ 2. มีผลงานจริงให้ดู
- ตรวจสอบ Project Reference, Portfolio, หรือระบบที่เคยทำ
- ถ้ามี Case Study หรือรีวิวลูกค้าเก่า จะน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
✅ 3. ทำงานโปร่งใส มีการอัปเดตงานสม่ำเสมอ
- ควรมีการ รายงานความคืบหน้าเป็นรอบ (Sprint) และเปิดให้คุณเข้าดูระบบ Prototype ได้
- ใช้เครื่องมือเช่น Trello, Jira หรือ Notion ในการติดตามงาน
✅ 4. มีการเสนอแนะ ไม่ใช่แค่รอคุณสั่ง
- บริษัทที่ดีจะให้คำแนะนำเชิง UX, Business Flow หรือการวางเทคโนโลยี อย่างมืออาชีพ
✅ 5. ประเมินราคาแบบมีเหตุผล
- ราคาถูกเกินจริง อาจนำไปสู่ระบบที่ไม่สมบูรณ์
- ควรมีเอกสาร TOR หรือ SOW (Scope of Work) ชัดเจนก่อนเริ่ม
✅ 6. มีทีม Support หลังจบงาน
- ควรถามเรื่อง การดูแลหลังระบบขึ้นจริง, มี SLA หรือไม่, ค่าใช้จ่ายหลังการส่งมอบระบบ
เช็กลิสต์: ถ้าบริษัทพัฒนานั้น “ใช่” ต้องมี…
ข้อพิจารณา | ✔ ตรวจสอบแล้วหรือยัง? |
---|---|
เข้าใจความต้องการธุรกิจ | ☐ |
มีผลงาน/ตัวอย่างระบบ | ☐ |
มีแผนงานและ Timeline ชัดเจน | ☐ |
เสนอเทคโนโลยีที่เหมาะสม | ☐ |
มีทีม Designer และ Tester | ☐ |
มีระบบติดตามงาน (เช่น Trello/Jira) | ☐ |
มีบริการหลังส่งมอบ (Support/Maintenance) | ☐ |
สรุป
การเลือกบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ไม่ใช่แค่เลือกจากราคา แต่ต้องดูที่ ความเข้าใจธุรกิจ, ความสามารถทางเทคนิค, ความโปร่งใสในการทำงาน และการสนับสนุนหลังการพัฒนา
หากคุณเริ่มต้นถูกทางตั้งแต่การเลือกพาร์ทเนอร์ คุณจะได้ระบบที่ใช้งานได้จริงและต่อยอดธุรกิจได้ในระยะยาว