เข้าใจ SDLC (Software Development Life Cycle) ฉบับธุรกิจ
SDLC คืออะไร?
SDLC (Software Development Life Cycle) คือ กระบวนการที่ใช้ในการวางแผน วิเคราะห์ ออกแบบ พัฒนา ทดสอบ และส่งมอบซอฟต์แวร์หรือระบบหนึ่ง ๆ อย่างมีระบบและประสิทธิภาพ
รูปแบบ SDLC ที่นิยมใช้ในธุรกิจ
1. Waterfall Model – เหมาะกับระบบที่มีความชัดเจนในทุกขั้นตอน
ลักษณะ: ทำงานแบบลำดับขั้น จากบนลงล่าง
ข้อดี: เห็นภาพรวมชัดเจน ควบคุมได้ง่าย
ข้อจำกัด: หากเปลี่ยน Requirement ทีหลัง จะต้องรื้อหลายขั้นตอน
2. Agile Model – เหมาะกับธุรกิจยุคใหม่ที่เน้นความยืดหยุ่น
ลักษณะ: ทำงานเป็นรอบ (Sprint) พร้อมรับ Feedback
ข้อดี: ปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว สื่อสารกับลูกค้าได้ต่อเนื่อง
ข้อจำกัด: ต้องมีการมีส่วนร่วมของลูกค้าอย่างใกล้ชิด
ขั้นตอนหลักใน SDLC (ไม่ว่าคุณจะเลือก Waterfall หรือ Agile)
| ขั้นตอน | คำอธิบาย | ตัวอย่างในธุรกิจ |
|---|---|---|
| 1. Requirement Gathering | รวบรวมความต้องการ | สัมภาษณ์ลูกค้า / ทำแบบฟอร์มความต้องการ |
| 2. System Design | ออกแบบ UX, UI, Database | สร้าง Wireframe, ER Diagram |
| 3. Development | เขียนโค้ดตามแผน | Frontend + Backend + API |
| 4. Testing | ทดสอบระบบ | Unit Test, UAT, Bug Fix |
| 5. Deployment | นำขึ้นใช้งานจริง | เชื่อม Hosting, Domain, SSL |
| 6. Maintenance | ดูแลและพัฒนาเพิ่มเติม | ปรับแก้บั๊ก / เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ |
ทำไม SDLC จึงสำคัญกับธุรกิจ?
- 🔄 ลดความเสี่ยง: วางแผนล่วงหน้าได้ชัดเจน
- 📈 ควบคุมต้นทุนและระยะเวลา: ส่งมอบระบบตรงตามแผน
- 📣 สื่อสารกับลูกค้าและทีมได้ดีขึ้น: แต่ละขั้นตอนเข้าใจตรงกัน
- 🔧 พร้อมพัฒนาต่อยอด: ระบบมีเอกสารและแผนชัดเจน รองรับการขยายในอนาคต
สรุป
การเข้าใจ SDLC คือกุญแจสู่การสร้างระบบที่มีคุณภาพ ควบคุมได้ และพัฒนาได้ต่อเนื่อง
ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือนักพัฒนา SDLC จะช่วยให้คุณเดินถูกทางตั้งแต่เริ่มจนส่งมอบระบบอย่างมืออาชีพ
