วิธีเลือกโปรแกรม HR ให้เหมาะกับองค์กรของคุณ
- โปรแกรม HR ออนไลน์ สำหรับธุรกิจ SME | เริ่มต้นเพียง 900 บาท/เดือน

การเลือกโปรแกรม HR ที่ “ตอบโจทย์จริง” ไม่ใช่แค่เรื่องของฟีเจอร์มาก–น้อย แต่ต้องสอดคล้องกับขนาดองค์กร, โครงสร้างทีม, งบประมาณ และระบบที่ใช้อยู่เดิม
เพราะหากเลือกผิด อาจต้องเสียทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย และแรงงานซ้ำซ้อนโดยใช่เหตุ
ก่อนเลือกโปรแกรม HR: ถาม 5 ข้อนี้กับตัวเองก่อน
คำถาม | เหตุผลที่ควรถาม |
---|---|
1. องค์กรมีพนักงานกี่คน? | ขนาดทีมมีผลต่อฟีเจอร์ที่จำเป็น เช่น ระบบจัดกะ, Payroll |
2. มีพนักงานรูปแบบใดบ้าง? | ประจำ, พาร์ตไทม์, รายวัน ต้องการการจัดการที่ต่างกัน |
3. มีงบประมาณเท่าไรต่อปี? | เพื่อวางแผนการใช้ระบบแบบ Cloud, SaaS หรือซื้อขาด |
4. ใช้โปรแกรมอื่นร่วมอยู่ไหม? | ถ้ามีบัญชี, CRM, ERP → ต้องเชื่อมต่อข้อมูลได้ |
5. ต้องการใช้งาน HR ผ่านมือถือหรือไม่? | สำหรับองค์กรที่มีพนักงานภาคสนามหรือทำงาน Hybrid |
ฟีเจอร์พื้นฐานที่ “ทุกองค์กร” ควรมีในระบบ HR
- ✅ ระบบลงเวลา (เข้า–ออกงาน, บันทึก OT)
- ✅ ระบบจัดการวันลา / การอนุมัติ
- ✅ ระบบคิดเงินเดือน / Slip / ภาษี / ประกัน
- ✅ ฐานข้อมูลพนักงาน / เอกสารสำคัญ
- ✅ Dashboard สรุปภาพรวมผู้บริหาร
วิธีเลือกโปรแกรม HR ให้เหมาะกับประเภทองค์กร
ประเภทองค์กร | แนะนำให้เลือก |
---|---|
✅ Start-up / SME (พนักงานไม่เกิน 50 คน) | ระบบแบบ Cloud, ราคาย่อมเยา, ใช้ง่าย, ไม่ต้องติดตั้ง |
✅ องค์กรขนาดกลาง (50–200 คน) | ระบบ HR ที่เชื่อมต่อได้กับบัญชี, มี Workflow อนุมัติ |
✅ องค์กรขนาดใหญ่ (มากกว่า 200 คน) | ระบบ HRM เต็มรูปแบบ, รองรับหลายสาขา, มีระบบประเมิน, Training, KPI |
✅ ธุรกิจบริการ / เปลี่ยนกะ | เน้นระบบจัดกะ + คำนวณรายชั่วโมง + การขออนุมัติเวร |
✅ ธุรกิจภาคสนาม | มีระบบลงเวลาผ่านมือถือ + GPS + แจ้งเตือนอัตโนมัติ |
สรุป
การเลือกโปรแกรม HR ไม่จำเป็นต้องเลือกที่ “ดีที่สุดในตลาด”
แต่ต้องเลือกที่ เหมาะที่สุดกับองค์กรคุณ ทั้งด้านงบประมาณ การใช้งาน และอนาคตของการเติบโต
เพราะระบบ HR ที่ดี คือระบบที่ทำให้องค์กร “ทำงานง่ายขึ้น” โดยไม่เพิ่มภาระ