พัฒนา Web App สำหรับระบบงานซ่อมบำรุงอุปกรณ์ (Maintenance System)

ในองค์กรที่มีอุปกรณ์ เครื่องจักร หรือระบบจำนวนมาก การดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องคือหัวใจสำคัญของประสิทธิภาพการทำงาน ระบบ Web App สำหรับงานซ่อมบำรุง (Maintenance System) จะช่วยให้การ แจ้งซ่อม, ติดตามงาน, และ วิเคราะห์ปัญหาซ้ำซาก เป็นไปอย่างเป็นระบบและแม่นยำ
ประเภทการซ่อมบำรุงที่ระบบควรรองรับ
1. Corrective Maintenance (ซ่อมเมื่อเสีย)
เมื่ออุปกรณ์เกิดปัญหา ผู้ใช้งานแจ้งผ่าน Web App ได้ทันที พร้อมแนบรูปภาพและระบุระดับความเร่งด่วน
ตัวอย่าง: ปั๊มน้ำเสีย, เครื่องปริ้นเตอร์ไม่ทำงาน
2. Preventive Maintenance (ซ่อมเชิงป้องกัน)
ตั้งรอบซ่อม/บำรุงตามระยะเวลา เช่น ทุก 3 เดือน หรือทุก 500 ชั่วโมงการใช้งาน
ระบบควรแจ้งเตือนล่วงหน้า พร้อมบันทึกผลการตรวจเช็ก
ตัวอย่าง: เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง, ตรวจสอบสายไฟ
3. Predictive Maintenance (ซ่อมตามแนวโน้ม)
ในกรณีที่มีข้อมูลจากเซ็นเซอร์หรือ IoT ระบบสามารถวิเคราะห์แนวโน้มการเสีย และแจ้งเตือนก่อนที่ปัญหาจะเกิด
ตัวอย่าง: อุณหภูมิสูงผิดปกติ, ความดันตก
ระบบรายงานและวิเคราะห์ (Reporting & Analytics)
1. Dashboard สรุปภาพรวม
- จำนวนแจ้งซ่อมรายเดือน
- อุปกรณ์เสียบ่อย
- ระยะเวลาซ่อมเฉลี่ย
2. รายงานแยกตามหมวดหมู่
- ตามแผนก, อาคาร, ประเภทอุปกรณ์
- ตามทีมช่าง/เจ้าหน้าที่
- ตามระดับความรุนแรง
3. ปฏิทินการบำรุงรักษา
- แสดงวันนัดซ่อม/ตรวจเช็ก
- ป้องกันลืมหรือซ้ำซ้อน
ความปลอดภัยและการเข้าถึง (Security & Access Control)
- สิทธิ์ของผู้ใช้: แยกระดับ เช่น ผู้แจ้ง, ช่าง, ผู้ตรวจสอบ, ผู้ดูแลระบบ
- Audit Log: บันทึกการเข้าระบบและการเปลี่ยนแปลงข้อมูล
- แนบลายเซ็นหรือการอนุมัติงาน (ถ้ามีขั้นตอนควบคุมคุณภาพ)
ฟีเจอร์สำคัญของระบบซ่อมบำรุง
1. ฟอร์มแจ้งซ่อมออนไลน์
- ระบุอุปกรณ์ที่เสีย
- แนบภาพ/วิดีโอประกอบ
- ระบุระดับความเร่งด่วน
2. ระบบติดตามสถานะการซ่อม
- แสดงขั้นตอน: “แจ้งซ่อม → รับเรื่อง → กำลังดำเนินการ → เสร็จสิ้น”
- ส่งอีเมล/Line แจ้งเตือนสถานะอัตโนมัติ
- ผู้แจ้งสามารถดูสถานะย้อนหลังได้
3. จัดคิวและมอบหมายช่าง
- แสดงลำดับความสำคัญ
- กำหนดช่างหรือทีมซ่อมที่รับผิดชอบ
- บันทึกเวลาซ่อมจริง
4. วิเคราะห์ปัญหาที่เกิดซ้ำ
- แสดงรายงานปัญหาที่พบบ่อย
- แยกตามประเภทเครื่อง/แผนก/ช่วงเวลา
- ใช้เพื่อวางแผนบำรุงรักษาล่วงหน้า (Preventive Maintenance)
ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ
- ลดเวลารอซ่อมและการสื่อสารที่ซ้ำซ้อน
- ป้องกันปัญหาซ้ำเดิมด้วยข้อมูลย้อนหลัง
- เพิ่มประสิทธิภาพของฝ่ายซ่อมบำรุง
- บริหารทรัพยากรได้แม่นยำยิ่งขึ้น